13 มีนาคม 2556

"ต้นไม้ใหญ่ กับรอยกากบาท" สัญลักษณ์ที่น่าศึกษา

เมื่อต้นเดือน มี.ค.2256 ผมได้ไปตรวจสอบและประเมินผลพื้นที่ปลอดภัยจากทุ่นระเบิด CHA 53-01 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว  ในพื้นที่นี้ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 (นปท.1) ตรวจพบ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล  PMN จำนวน 129 ทุ่น   ขณะที่ผมเดินตรวจสอบพื้นที่นั้น  กำลังพลของ นปท.1 ได้ชี้ให้ผมดูรอยกากบาทบนต้นไม้ขนาดใหญ่ จำนวน 2 ต้น  แล้วอธิบายว่า น่าจะเป็นสัญลักษณ์สนามทุ่นระเบิด ที่ผู้วางทำเอาไว้  (ตำแหน่งที่พบ เป็นไปตามภาพด้านล่าง)



เมื่อดูที่รอยกากบาท และเทียบกับแนวสนามทุ่นระเบิดที่ตรวจพบ  มีความเป็นไปได้ตามที่สันนิษฐาน แต่ก็ยังไม่สามารถแปลลักษณะของกากบาทได้ชัด  ว่าทิศทางของหางที่ลากไป ความสูง ความยาว รอยตะวัด มีความหมายอะไร  ตำแหน่งตรงกลางกากบาทที่ตัดกัน คือตำแหน่งของต้นไม้ ใช่หรือไม่   




นอกจากนั้น รอบๆ ต้นไม้ที่ทำสัญลักษณ์นี้ จะมีทุ่นระเบิดวางไว้เพื่อป้องกันด้วย ใครสุ่มสี่สุ่มห้าเดินเข้าไปโดยไม่ระมัดระวัง  อาจเป็นอันตรายได้  เหตุที่วาง อาจจะเป็นการป้องกันฝ่ายตรงข้ามที่เข้ามาตรวจเพื่อจะทำการเก็บกู้รื้อถอนก็ได้ 




ซึ่งผมแจ้งว่า ทาง นปท.1 น่าจะลองศึกษาเรื่องนี้ให้ถ่องแท้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานของตนเอง หรือ นปท.อื่นๆ ต่อไป  

เรื่องนี้ ผมนำมาบันทึกไว้เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน  เผื่อว่า นปท.หรือหน่วยงานที่ปฏิบัติการทุ่นระเบิดอื่นๆ  จะนำไปใช้และลองสังเกตในพื้นที่สนามทุ่นระเบิดที่ตนเองกำลังปฏิบัติงานอยู่ได้บ้าง  

"หาต้นไม้ใหญ่ และรอยกากบาท"   


ต้นมะค่าแต้ใหญ่ ที่มีรอยกากบาท













*********************
ชาติชยา ศึกษิต : 13 มี.ค.2556

11 มีนาคม 2556

เหตุการณ์เล็กๆ ที่ชายขอบประเทศไทย


เมื่อต้นเดือน มี.ค.2556 ผมได้ไปตรวจสอบประเมินผลพื้นที่ที่มีทุ่นระเบิดฝังอยู่ตามบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา แถว บ้านร่มไทร ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว 

ชาวบ้านเล่าให้ผมฟังหลายคนด้วยความอัดอั้นและน้อยเนื้อต่ำใจ เรื่อง ที่ดินทำกินในเขตแผ่นดินไทยที่เคยทำมาหากินมาแต่ครั้งปู่ย่าตายายตกทอดกันมา บัดนี้..กลับถูกทหารเขมรอันธพาลถือปืนเข้ามาอาละวาดข่มขู่ ห้ามไม่ให้เข้าไปทำกิน บอกว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน ส่วนกำลังทหาร ตชด.หรือป่าไม้ของไทย ก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่รู้ไม่เห็น ยอมให้ทหารเขมรเหิมเกริม มารังแกราษฎรไทยในเขตผืนแผ่นดินไทย 

เขมรใช้ยุทธศาสตร์ให้ราษฎรเขมรรุกคืบเข้าพื้นที่ติดขอบชายแดน ปลูกบ้านช่องอยู่อาศัย ทำมาหากินให้เต็มพื้นที่ มีกองกำลังคอยคุ้มกันความปลอดภัยให้ แล้วค่อยๆ ขยับรุกกินพื้นที่เข้ามาในประเทศไทยเรื่อยๆ แต่ยุทธศาสตร์ประเทศไทย กลับเอาราษฎรไทยออกจากพื้นที่ อ้างเพื่อความปลอดภัย แต่ก็ไม่เห็นทำอะไรกับเขมรที่รุกล้ำเข้ามา 

"ที่ดินของฉัน แต่ฉันเข้าไปทำกินไม่ได้ ทั้งๆ ที่มันอยู่ในเขตแดนไทย แล้วจะให้ฉันทำยังไง" 

นี่คือคำถามที่ชาวบ้านแถวนั้นถามเหมือนๆ กันเกือบทุกคน 

"ถึงแม้หัวหน้าฯ(หมายถึงผม) จะกู้ระเบิดออกหมดแล้ว ฉันก็ยังเข้าไปทำมาหากินไม่ได้อยู่ดี เพราะไอ้ทหารเขมร..พวกนี้แหละ" 

ชาวบ้านยังเล่าต่อว่า "ตรงบ้านฉันนี้ มันมีการขนของเถื่อนกัน ไม่ว่าจะเป็นข้าว เป็นไม้ จากฝั่งเขมรเข้ามาฝั่งไทย นายทุนและนักการเมืองทั้งไทยและเขมร มันรู้กัน ข้าราชการไทยไอ้ตัวใหญ่ๆ ก็เอากับเขาด้วย ทั้งทหาร ตชด. ป่าไม้ ตัวเล็กตัวน้อยก็ได้ส่วนแบ่งเหมือนกัน บ้านฉันถึงเป็นอย่างนี้แหละ มันไม่อยากให้พวกฉันเห็นความชั่วของพวกมัน" 

หลักเขตที่  30
ไทย-กัมพูชา
ผมฟังแล้วก็เศร้าใจ อยากช่วยพวกเขา...แต่ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไรดี 
ก็ได้แต่นำมาเขียนไว้ในบทความนี้แหละ..เพื่อเล่าสู่กันฟัง 
ก็ไม่รู้มันจะได้ประโยชน์อะไรบ้างหรือปล่าว 

ผมถามว่าเคยร้องเรียนเรื่องนี้กับใครบ้างหรือปล่าว 

ชาวบ้านบอกว่าร้องเรียนหมดแล้ว ทั้งผู้ใหญ่ กำนัน อบต. กองกำลังทั้งตำรวจทหาร ข้าราชการ ส.ส. แม้แต่กรรมาธิการคณะต่างๆ ที่มาตรวจมาเยี่ยมไม่รู้กี่คณะ แต่ไม่เคยมีใครมาแก้ปัญหาให้พวกฉันสักคน 

ครั้งนี้.. พวกฉันตั้งใจ จะไปร้องเรียนนายกรัฐมนตรีที่กรุงเทพฯ เลย 

ผมถามว่า "ทำไม คิดว่านายกรัฐมนตรี จะแก้ปัญหานี้ได้" 
ชาวบ้านตอบว่า "ก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะฉันไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว" 

เหตุการณ์นี้ อาจจะเป็นเหตุการณ์เล็กๆ ในหมู่บ้านชายขอบแห่งหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วมันเกิดขึ้น เกือบตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หากรัฐบาลไม่แก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง อ้างแต่ว่าเกรงจะเกิดผลกระทบต่อความสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ แล้วทำไมเขมรมันจึงกล้าทำ..ต้องรอให้มันรุกพื้นที่จนเบ็ดสร็จเสียก่อนหรือ จึงค่อยลงมือแก้ไข.. 


(ผลพวงจากการสู้รบตามแนวชายแดน)
ชาวบ้านท่านนี้ เหยียบทุ่นระเบิด
ในพื้นที่ทำกินของตัวเอง 
























********************* 
ชาติชยา ศึกษิต 9 มี.ค.2556