ผมเผอิญได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า "ฟื้นฟูปราสาทสด๊ก ก๊อก ธม" (The Sadok Kok Thom Ruins Revived) จัดทำโดย องค์กรพันธมิตรแห่งประเทศญี่ปุ่นเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการกู้ระเบิดเพื่อมนุษยธรรม (Japan Alliance for Humanitarian Demining Support : JAHDS) พิมพ์เมื่อปี พ.ศ.2547 โดยจัดพิมพ์เป็น 3 ภาษา คือ ไทย ญี่ปุ่น และอังกฤษ เพื่อเป็นที่ระลึกหลังจากเสร็จสิ้นโครงการ "เก็บกู้และทำลายทุ่นระเบิดบริเวณปราสาทสด๊ก ก๊อก ธม" ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้โครงการ "Japan NGO-Support Grant Cooperation" อันเป็นความร่วมมือระหว่างองค์กร JAHDS, ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) และมูลนิธิพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ จนสามารถคืนพื้นที่ปลอดภัยบริเวณปราสาทฯ ให้แก่ประชาชน จากทุ่นระเบิดที่ตกค้างจากการสู้รบในสมัยอดีต และยังสามารถดำรงรักษาไว้ซึ่งโบราณสถานที่สำคัญที่มีคุณค่าของผืนแผ่นดินไทย สามารถฟื้นฟูเป็นแหล่งศึกษาโบราณคดีและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสระแก้วได้อีกแห่งหนึ่ง
หนังสือ "ฟื้นฟูปราสาท สด๊ก ก๊อก ธม" |
เมธี...ผู้เคราะร้าย
ในหนังสือเล่มดังกล่าวมีบทความหนึ่งใช้ชื่อว่า "เสียงแห่งชีวิต" (Voice of life) เป็นเรื่องราวของ ด.ช.เมธี เย็นควร อายุ 7 ปี ซึ่งเหยียบทุ่นระเบิดบริเวณสวนใกล้บ้านของเขา ขาขาดทั้งสองข้าง
หลังจากเขาต้องกลายเป็นคนพิการ เมธีก็ไม่ได้ไปโรงเรียน
เมธี เคยรำพึงให้ฟังว่า "ผมอยากไปโรงเรียน..." แต่เมธีก็ไม่ได้ไป ถึงแม้เขาจะสามารถเดินได้อีกครั้งด้วยขาเทียมแล้วก็ตาม เพราะที่บ้านไม่มีใครพาเขาไปโรงเรียนได้ แม่ก็ยุ่งอยู่กับการทำงานในไร่นา และพ่อของเขาก็ต้องไปทำงานในเมือง
เรื่องราวของเมธี ทำให้ผมรู้สึกสนใจว่า "ป่านนี้ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง" ผมจึงได้โพสต์เรื่องราวของเมธีลงในเฟสบุ๊ค เผื่อจะมีใครพอทราบบ้าง (ดูรายละเอียด) ได้ผลครับ มีผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิด ได้เข้ามาแจ้งข่าวสารเพิ่มเติม คือ
คุณอ้น "เมธีอยู่กับยาย ทีหลังยายเลี้ยงไม่ไหว เมธีได้ไปเรียนที่โรงเรียนมหาไถ่ ที่ดีมากๆ สำหรับคนพิการ อยู่ที่พัทยาค่ะ โดยพี่อ๋า เจอาร์เอส (องค์การที่น้องชมพู่ทำงานอยู่) ซึ่งเป็นคนดูแลงานด้านทุ่นระเบิดตอนนั้นเป็นคนคอยดูแลเมธีอยู่สม่ำเสมอค่ะ แต่ไม่ได้ข่าวหลายปีแล้ว คิดว่าคงสบายดี เพราะถ้าไม่สบายคงได้ข่าวบ้าง"
คุณชมพู่ "ตามข่าวให้แล้วค่ะ ได้สอบถามไปยังพี่อ๋า อดีตเจ้าหน้าที่ JRS และ Landmine Monitor Researcher คนแรกของไทยค่ะ ข่าวล่าสุดคือ น้องเมธีเรียนอยู่ที่โรงเรียนพระมหาไถ่ พัทยา และถูกส่งไปฝึกเป็นนักบาสคนพิการค่ะ พี่อ๋าเป็นคนพาน้องไปส่งเรียนที่โรงเรียนพระมหาไถ่ พัทยาเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว รายละเอียดอื่น ๆ ต้องโทรไปสอบถามเพิ่มเติมที่โรงเรียนนะคะ"
นอกจากนั้น ยังมีเพื่อนๆ ในเฟสบุ๊ค หลายท่าน ให้กำลังใจ และจะคอยเฝ้าติดตามข่าวของเมธีด้วย...
การ "ตามหาเมธี" จึงเกิดขึ้น ซึ่งผมก็อยากรู้เช่นกันว่า...
"ชีวิตเด็กน้อยๆ ที่ต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ เขาจะต่อสู้ชีวิตได้อย่างไร มีใครคอยช่วยเหลือและให้กำลังใจเขาอยู่บ้าง ป่านนี้ เมธี..คงน่าจะอายุ 17 ปี แล้ว การเยียวยาช่วยเหลือจากรัฐบาลแก่ผู้ที่ประสบภัยจากทุ่นระเบิด (ที่ตกค้างจากพิษภัยของสงครามในสมัยก่อน) ยังคงช่วยเหลือเขาอยู่หรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ไฟไหม้ฟาง"
เรื่องราวเหล่านี้ ผมและลูกน้องทุกคน จะพยายามตามหาเมธีให้พบ...เพื่อนำมาเล่าสู่กันฟัง
...เราอาจจะได้ฟังเรื่องราวที่ดีๆ...จากน้องเมธีได้บ้าง ไม่มากก็น้อย....
ติดตามเรื่องราวผ่านเฟสบุ๊ค
*****************************************
ชาติชยา ศึกษิต : 30 ก.ค.2556
ติดตาม ตามหาเมธี ตอนที่ 2
การ "ตามหาเมธี" จึงเกิดขึ้น ซึ่งผมก็อยากรู้เช่นกันว่า...
"ชีวิตเด็กน้อยๆ ที่ต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างตั้งแต่อายุเพียง 6 ขวบ เขาจะต่อสู้ชีวิตได้อย่างไร มีใครคอยช่วยเหลือและให้กำลังใจเขาอยู่บ้าง ป่านนี้ เมธี..คงน่าจะอายุ 17 ปี แล้ว การเยียวยาช่วยเหลือจากรัฐบาลแก่ผู้ที่ประสบภัยจากทุ่นระเบิด (ที่ตกค้างจากพิษภัยของสงครามในสมัยก่อน) ยังคงช่วยเหลือเขาอยู่หรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่ไฟไหม้ฟาง"
เรื่องราวเหล่านี้ ผมและลูกน้องทุกคน จะพยายามตามหาเมธีให้พบ...เพื่อนำมาเล่าสู่กันฟัง
...เราอาจจะได้ฟังเรื่องราวที่ดีๆ...จากน้องเมธีได้บ้าง ไม่มากก็น้อย....
ติดตามเรื่องราวผ่านเฟสบุ๊ค
*****************************************
ชาติชยา ศึกษิต : 30 ก.ค.2556
ติดตาม ตามหาเมธี ตอนที่ 2
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น