30 สิงหาคม 2557

ย้อนอดีตเนิน 491


แนวชายแดนไทย-พม่า ด่านทัพต้นไทร (เนิน 491)
เป็นชื่อเรียกพื้นที่รอยต่อระหว่างพรมแดนไทยและสหภาพเมียนม่าร์ ตั้งอยู่ในเขต ต.รับร่อ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร  สถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ของชุมพร โดยเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 รัฐบาลทหารพม่าได้นำกำลังเข้าปราบปรามชนกลุ่มน้อยชาวกะเหรี่ยงที่ฐานถ้ำดิน โดยทหารพม่ายึดพื้นที่บริเวณรอบเนิน 491 เป็นฐานตั้งยิง  ซึ่งถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของประเทศไทย ภายหลังทหารพม่าปราบปรามกะเหรี่ยงได้สำเร็จ ก็ยังมิถอนกำลังออกไปจากเนิน 491 จึงเป็นชนวนนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างประเทศ  ต่อมารัฐบาลได้ใช้ยุทธวิธีทางการทูตเจรจาจนกองทหารพม่ายินยอมและถอนกำลังออกไป  เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2535


พื้นที่บริเวณโดยรอบเนิน 491

ความตอนหนึ่งจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2535 ซึ่งได้อัญเชิญไปจารึกไว้ ณ จุดยุทธศาสตร์เนิน 491  ความว่า

"...ที่จริง ถ้าทั้งสองฝ่ายถอย แล้วก็ต่างคนต่างยิงปืนใหญ่ใส่กันบน "สี่เก้าหนึ่ง" นั้นให้เหลือ "สี่เก้าศูนย์" ก็หมดเรื่องไป หมดเรื่องไม่ต้องทำอะไร แต่ใครก็อย่าไปยืนบนนั้น จะเป็นไทยหรือพม่าอย่ายืนบนนั้น เพราะว่าทั้งสองฝ่ายจะยิงปืนใหญ่ใส่ อันนี้เป็นข้อตกลงที่ทำได้แล้วเป็นการดี..."


ปัจจุบันจังหวัดชุมพรกำลังพัฒนาเนิน 491 ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและทางประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและให้เยาวชนรุ่นหลังได้ศึกษาหาความรู้ทางประวัติศาสตร์ของไทย 


เนิน 491 ยังคงต้องสงสัยว่ามีทุ่นระเบิดตกค้างอยู่
จากผลการสำรวจขององค์กรชาวต่างชาติ เมื่อปี พ.ศ.2543 พบว่าพื้นที่ด้านเหนือและด้านใต้ของเนิน 491 เลาะตามแนวชายแดนนั้น ยังคงมีทุ่นระเบิดและสรรพวุธระเบิดที่ไม่ระเบิด (UXO) ตกค้างอยู่ จากผลพวงของการสู้รับ เมื่อสมัยปี พ.ศ.2535 กินพื้นที่ประมาณเกือบ 7 ตารางกิโลเมตร


พื้นที่สีแดง คือ พื้นที่ต้องสงสัยว่ายังมีทุ่นระเบิดและ UXO ตกค้างอยู่
กินพื้นที่เกือบ 7 ตารางกิโลเมตร
ครั้งแรกที่กลับไป
ตลอดระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ไม่เคยดำเนินการใดๆ กับพื้นที่เนิน 491 นี้เลย ผมและทีมงานได้รับมอบหมายให้ลงไปสำรวจเป็นครั้งแรก  ในมือมีเพียงแค่เอกสารที่สำรวจไว้เมื่อปี พ.ศ.2543 เท่านั้น 

หลังเสร็จภารกิจ "คืนความบริสุทธิ์" ให้กับ จ.นครศรีธรรมราชแล้ว พวกเราเดินทางกลับขึ้นมาชุมพร และ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ส.ค.2557 ผมและทีมงานได้มีโอกาสเข้าพบท่านรองนายอำเภอท่าแซะ  พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และชาวบ้านที่เกี่ยวข้องอีกหลายท่าน  ผมได้เล่าเรื่องราวดังกล่าวให้ฟัง ซึ่งทุกท่านทราบเรื่องการรบเมื่อปี พ.ศ.2535 เป็นอย่างดี แต่ไม่เคยทราบเลยว่าพื้นที่เนิน 491 นี้ถูกบันทึกไว้ในฐานข้อมูลระดับชาติว่า ยังเป็นพื้นที่อันตราย เป็นพื้นที่ที่ต้องสงสัยว่ายังมีทุ่นระเบิดตกค้างอยู่ ควรแจ้งเตือนราษฎรไม่ให้เข้าไปใช้พื้นที่ซึ่งอาจเกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้


พูดคุยหารือ ณ ที่ว่าการอำเภอท่าแซะ 

ไปไม่ถึงเนิน 491
หลังจากพูดคุยเสร็จ พวกเราได้เดินทางเข้าไปในพื้นที่จริง ภายใต้การอำนวยความสะดวกและความคุ้มครองของปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน เจ้าหน้าที่ อส. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกำลังตำรวจตระเวนชายแดน ระหว่างทางพวกเราต้องเปลี่ยนไปนั่งรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่ผู้ใหญ่บ้านจัดเตรียมไว้ให้ เพราะรถตู้ของเราเข้าไปไม่ได้ การเดินทางสำรวจพื้นที่สิื้นสุดที่ฐาน ต.ช.ด.ชุดเฝ้าระวังชายแดนที่ 4102 พวกเราไม่สามารถเดินทางต่อไปยังเนิน 491 ได้ เพราะสภาพเป็นป่ารกทึบ

หารือข้อมูลพื้นที่ และการแจ้งเตือนให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากทุ่นระเบิด
กับ
 ร.ต.ต.วิรัช ทองเทพ ครูใหญ่ โรงเรียน ตชด.บ้านสันตินิมิตร

เดินทางขึ้นฐาน ตชด.4102

UXO ที่พบระหว่างการปรับปรุงฐานของ ตชด.ฯ

เส้นทางที่จะไปเนิน 491 มีสภาพป่ารกทึบ เพราะเป็นฤดูฝน

วิเคราะห์พื้นที่การสู้รบ
ภาพร่างพื้นที่ต้องสงสัยว่ามีทุ่นระเบิดบริเวณรอบเนิน 491


วันหนึ่งข้างหน้า เราจะกลับไป
หลังจากที่พวกเราวิเคราะห์พื้นที่การสู้รบเสร็จแล้ว พวกเราได้ร่วมกันเขียนภาพร่างคร่าวๆ ว่าพื้นที่ใดบ้างที่มีความสงสัยว่ายังมีทุ่นระเบิดตกค้างอยู่  ซึ่งส่วนใหญ่ยังสนับสนุนข้อมูลตามผลการสำรวจเมื่อปี พ.ศ.2543 แต่สิ่งที่ผมรู้สึกกังวลมากในขณะนี้คือ 

"ในพื้นที่ที่ต้องสงสัยว่ามีทุ่นระเบิดแห่งนี้ ไม่เคยมีการติดป้ายแจ้งเตือนอันตรายหรือแสดงเส้นขอบเขตไว้เลยว่าพื้นที่เหล่านี้มีทุ่นระเบิด  ราษฎรไม่ควรเข้าไปใช้พื้นที่อาจเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้"

มอบป้ายแจ้งเตือนอันตรายจากวัตถุระเบิด
ให้ผู้ใหญ่บ้านและครูใหญ่ รร.ตชด.ฯ ไว้เป็นตัวอย่าง 

ผมได้มอบป้ายแจ้งเตือนอันตรายจากวัตถุระเบิด ซึ่งเหลือมาจากการปฏิบัติงานที่นครศรีธรรมราช เพียง 1 แผ่น ให้ผู้ใหญ่บ้านและครูใหญ่ รร.ตชด. ไว้เพื่อเป็นตัวอย่าง หลังจากผมถึง TMAC แล้ว ผมสัญญาว่าจะส่งมาป้ายมาให้อีกทางพัสดุไปรษณีย์ และหลังจากได้รับป้ายแล้ว วานให้ผู้ใหญ่บ้านช่วยเป็นธุระติดตั้งให้ด้วย

ก่อนที่พวกเราจะกลับ
ผมรู้สึกได้ว่า...แววตาแห่งความกังวลบางอย่างเกิดขึ้นกับชาวชุมพรที่ร่วมสำรวจกับพวกเรา...
ผมจึงกล่าวว่า "ไม่เป็นไรครับ แล้วผมจะกลับมาอีก"
ผู้ใหญ่บ้านท่านหนึ่งกล่าวเป็นภาษาใต้จับความได้ว่า หากจะกลับมาปฏิบัติงาน ให้มาเดือนมกราคมปีหน้า เพราะฝนหยุดตกแล้ว เขาจะจัดเตรียมที่พักไว้ให้พวกเราทุกคน
ผมยิ้ม...แล้วตอบแบบไม่ค่อยเต็มปากเต็มคำว่า "ครับ.." 

วันหนึ่งข้างหน้า ผมจะกลับไป 
กลับไปเพื่อปลดปล่อยพื้นที่เนิน 491 ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย
แต่ผมไม่รู้ว่า เมื่อใด เท่านั้นเอง




ขอบคุณชาวชุมพรทุกคนที่ร่วมสำรวจกับพวกเรา

*******************
ชาติชยา ศึกษิต : 31 ส.ค.2557

29 สิงหาคม 2557

คืนความบริสุทธิ์ให้เมืองคอน


เมื่อปี พ.ศ.2543 องค์กรต่างชาติได้ทำการสำรวจพื้นที่ที่ยังมีทุ่นระเบิดตกค้างอยู่ในแผ่นดินไทย จากผลพวงของการสู้รบในอดีต พบว่า แผ่นดินไทยมีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดและสรรพาวุธระเบิดที่ยังไม่ระเบิด รวม 2,556.7 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 24 จังหวัดตามแนวชายแดน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยของราษฎรจำนวนกว่า 500,000 คน

ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ได้ดำเนินการค้นหาเก็บกู้และทำลายทุ่นระเบิด ในทุกจังหวัด มาตั้งแต่ปี 2543 จนกระทั่งเมื่อสิ้นปี 2556 เหลือเพียง 18 จังหวัด แต่เป็นที่น่าแปลกว่าจังหวัดที่ไม่เคยมีการเข้าไปดำเนินการใดๆ เลยตั้งแต่การสำรวจเมื่อ 13 ปีที่ผ่านมา คือ จ.ยะลา จ.นครศรีธรรมราช และ จ.ชุมพร 



ไม่มีใครให้คำตอบ
ตอนผมเข้ามาปฏิบัติงานที่ TMAC เมื่อกลางปี 2555 ผมรู้สึกสงสัยว่า ทำไม 3 จังหวัดภาคใต้ดังกล่าวจึงไม่ได้รับการเหลียวแลใดๆ เลย แต่ไม่มีใครให้คำตอบได้ ปัจจุบันหน่วยที่ทำหน้าที่ค้นหาเก็บกู้และทำลายทุ่นระเบิดของ TMAC มีอยู่ 4 หน่วย คือ

  • หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 1 รับผิดชอบ จ.สระแก้ว
  • หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 2 รับผิดชอบ จ.ตราด และจันทบุรี
  • หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 รับผิดชอบ จังหวัดทางภาคอีสาน
  • หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 4 รับผิดชอบ จังหวัดทางภาคเหนือ
แต่พื้นที่ภาคใต้กลับไม่มีใครรับผิดชอบ...

ที่ จ.นครศรีธรรมราชนั้น มีพื้นที่ต้องสงสัยว่ามีทุ่นระเบิดถูกบันทึกไว้ในฐานข้อมูลระดับชาติ จำนวนเพียง 122 ตารางเมตรเท่านั้น ผมไม่ทราบว่า “ทำไม TMAC จึงไม่จัดทีมงานเฉพาะกิจเข้าไปดำเนินการพิสูจน์ทราบว่ามันมีทุ่นระเบิดจริงหรือไม่ หากมีก็ดำเนินการเก็บกู้และทำลายเสีย จ.นครศรีธรรมราช ก็จะกลายเป็น จังหวัดที่ปลอดภัยจากทุ่นระเบิด ไม่ต้องคาราคาซังจนกระทั่งถึงวันนี้ ซึ่งเป็นเวลากว่า 13 ปีแล้ว” 

ผมพยายามเสนอแนวความคิดดังกล่าวต่อ TMAC นับเป็นเวลากว่า 2 ปี จนกระทั่งวันนี้สำเร็จ แต่ทีมงานที่ว่ากลับกลายเป็นตัวผมและลูกน้องเสียเอง ซึ่งผมยินดีครับ ผมและทีมงานได้รับอนุมัติให้เข้าไปปลดปล่อยพื้นที่อันตรายฯ ที่ จ.นครศรีธรรมราชในวันที่ 25-26 ส.ค.2557 ที่ผ่านมา 

เข้าพบนายวิโรจน์ เทพพิทักษ์
นายอำเภอบางขัน จ.นครศรีธรรมราช
ปฏิบัติการปลดปล่อยพื้นที่อันตรายฯ 
ทีมงานของเราใช้เวลาเพียงวันเดียวในการปฏิบัติการปลดปล่อยพื้นที่อันตรายฯ ในครั้งนี้ คือวันอังคารที่ 26 ส.ค.2557 หลังจากช่วงเช้าได้เข้าพบนายวิโรจน์ เทพพิทักษ์ นายอำเภอบางขัน จ.นครศรีธรรมราช เล่าเรื่องราวให้ท่านฟังว่าที่ บ.เคี่ยมงาม ต.ลำนาว อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช นั้นมีพื้นที่ที่ต้องสงสัยว่าทุ่นระเบิดอยู่ จำนวน 122 ตารางเมตร ซึ่งท่านบอกว่า ท่านไม่เคยทราบเรื่องราวนี้มาก่อนเลย เพราะไม่เคยมีใครเล่าหรือส่งมอบต่อให้ท่านทราบ 

ต่อจากนั้น ทีมงานปลดปล่อยฯ ก็เริ่มเข้าพื้นที่ฯ ปฏิบัติงานตามกระบวนการปลดปล่อยพื้นที่ด้วยวิธี Land Release ท่ามกลางสายฝนในช่วงบ่ายที่เทกระหน่ำเพราะมีพายุเข้าพอดี ถึงแม้พื้นที่แห่งนี้จะเป็นสวนยางแล้วก็ตาม กระบวนการต่างๆ ก็ยังคงต้องเป็นไปตามมาตรฐานสากล ผลปรากฏว่าพื้นที่แห่งนี้ไม่มีทุ่นระเบิดแต่อย่างใด สามารถปลดปล่อยให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยได้ 








คืนความบริสุทธิ์ให้นครศรีธรรมราช
จ.นครศรีธรรมราช ถูกกล่าวหาว่ามีพื้นที่อันตรายที่สงสัยว่ามีทุ่นระเบิดอยู่นานถึง 13 ปี วันนี้ ทีมงานของเรารู้สึกภูมิใจและดีใจที่สามารถปลดปล่อยข้อกล่าวหานั้นให้แก่จ.นครศรีธรรมราชได้

วันนี้ เมืองคอนบริสุทธิ์แล้ว หลังจากที่ถูกต้องสงสัยมานานถึง 13 ปี   

ขอขอบคุณผู้บริหาร TMAC ที่ได้อนุมัติให้พวกเราเข้าไปปฏิบัติงานในครั้งนี้
ขอขอบคุณนายอำเภอบางขัน ปลัดฝ่ายต่างๆ กำนัน ผู้ช่วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ อส. และชาวบ้าน ทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและคอยอำนวยความสะดวกให้ภารกิจในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี 

ขอขอบคุณคนเมืองคอนทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและคอยอำนวยความสะดวก

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจแล้วพวกเราเดินทางกลับขึ้นไปยัง จ.ชุมพร เพื่อย้อนหาอดีตการสู้รบที่เนิน 491 ต่อไป

อ่านต่อ ย้อนอดีตเนิน 491
************************************
ชาติชยา ศึกษิต : 29 ส.ค.2557