10 กุมภาพันธ์ 2556

ดอยไตแลง แผ่นดินผืนสุดท้าย..

เมื่อบ่ายวันที่ 6 ก.พ.2556 หลังจากที่ผมเสร็จภารกิจการตรวจสอบประเมินผลพื้นที่ปลอดภัยจากทุ่นระเบิดที่บ้านไม้ลัน อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ผมมีโอกาสได้เดินทางเข้าไปที่ "ดอยไตแลง" ในเขตแดนของรัฐฉาน ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งดอยไตแลงนี้ เป็นเหมือนแผ่นดินผืนสุดท้ายของชาวไทยใหญ่ ที่ถอยมาจนสุดขอบเขตแดนแล้ว 

ดอยไตแลง มองจากบรมราชานุสาวรีย์
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ชาวไทยใหญ่ปัจจุบันกระจัดกระจายอยู่หลายพื้นที่ ดอยไตแลงนี้เป็นที่อยู่อีกแห่งหนึ่งของชาวไทยใหญ่ที่ต้องอพยพถอยร่นจากการรุกคืบของกองทัพเมียนมาร์ บ่ายวันที่ผมไป ดอยไตแลงครึกครื้นเป็นพิเศษ มีผู้คนชาวไทยใหญ่เดินขวักไขว่กันเป็นจำนวนมาก ทั้งลูกเด็กเล็กแดง คนหนุ่มคนสาว คนเฒ่าคนแก่ เนื่องจากวันพรุ่งนี้ คือ วันที่ 7 ก.พ.2556 จะเป็นวันชาติไทยใหญ่ ครบรอบปีที่ 66 ซึ่งจะมีการเฉลิมฉลองกัน ชาวไทยใหญ่ที่ไปทำงานในที่ต่างๆ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง และจังหวัดทางภาคเหนือ จึงต่างทยอยเดินทางกลับมาเพื่อรอร่วมฉลองงานวันชาติในวันรุ่งขึ้น และถือโอกาสมาเยี่ยมพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ญาติพี่น้องอีกทางหนึ่งด้วย 


ทางยากลำบาก ใจไม่ย่อท้อ
ถนนหมายเลข 1226 แยกจาก อ.ปางมะผ้า ขึ้นสู่บ้านไม้ลัน บ้านปางคาม สู่ดอยไตแลง เต็มไปด้วยรถกะบะตอนเดียวขับเคลื่อนสี่ล้อบรรทุกชาวไทยใหญ่เต็มท้ายรถ ขับไปบนเส้นทางสันเขาที่คดเคี้ยวและยอดดอยสูงชัน โค้งอันตรายและหักศอกนับไม่ถ้วน ช่วงแรกๆ ก็ยังเป็นทางลาดยาง แต่พอยิ่งสูงยิ่งลึกเข้าไปก็ยิ่งลำบากและอันตราย ถนนชำรุด..เหลือแต่ฝุ่นดินและลูกรังตลบอบอวล จนศรีษะเสื้อผ้า และเนื้อตัวผู้โดยสารล้วนเป็นสีน้ำตาลแดงกันหมด  ดีที่เป็นหน้าหนาว หากเป็นหน้าฝน..ถนนเส้นนี้คงจะปิดใช้งานเพราะมันอันตรายมาก


"ผมเคยเดินทางมาหลายพื้นที่ ยอมรับว่าถนนเส้นนี้  เป็นถนนที่ลำบากและอันตรายมากที่สุด อีกถนนหนึ่ง ในประเทศไทย"    

ไม่ว่าการเดินทางจะโหดร้ายเพียงใด ใจของชาวไทยใหญ่ไม่เคยย่อท้อ ไม่ว่าเขาจะอยู่แห่งหนตำบลใด ต้องดิ้นรนขวนขวายกลับมาร่วมฉลองงานวันชาติของตนเองให้ได้ที่ "ดอยไตแลง"


จุดตรวจสุดท้ายของไทย
ก่อนเข้าสู่ดอยไตแลง

















บนดอยไตแลง ใช่ว่าจะเป็นทางอย่างดี เต็มไปด้วยฝุ่นเช่นกัน ไม่มีทางลาดยางให้เห็น วันนี้..มีร้านค้ากางผ้าพลาสติคตั้งขายอยู่สองทางข้างเต็มไปหมดเหมือนกับคาราวานตลาดนัดขนาดใหญ่ รอให้ผู้คนที่มาร่วมงานฉลองจำนวนมากได้จับจ่ายใช้สอย ทั้งเสื้อผ้า ของกิน ของใช้ เหล้า เบียร์ บุหรี่ น้ำแข็ง ฯลฯ


สภาพทั่วไปบนดอยไตแลง
















ชาวไทยใหญ่ต่างกลับมารอร่วมฉลองวันชาติ
คาราวานสินค้าเต็มข้างทาง
































บนดอยไตแลงมีแต่ถนนลูกรังและฝุ่น

















ชาติที่ยิ่งใหญ่
ผมได้กินน้ำชาและสนทนากับนายทหารคนหนึ่งของกองทัพบกแห่งรัฐฉาน (Shan State Army : SSA) ผมเข้าใจเขาได้ทันทีในความรู้สึกของเขา "เขาเคยเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ แต่วันนี้เขากลับไม่มีแผ่นดินของตัวเอง" ผมหวนนึกกลับมาถึงชาติไทยของเราว่า วันหนึ่ง พวกเราจะมีชะตากรรมเยี่ยงเขาหรือไม่ เพราะวันนี้ "นายทุนเข้มแข้ง นักการเมืองขายชาติ ข้าราชการอ่อนแอ กองทัพไร้นักรบ แถมราษฎรยังต่ำอุดมการณ์" วันหนึ่ง เราอาจจะเหมือนชาวไทยใหญ่ ที่ต้องแอบฉลองวันชาติบนเนื้อที่ผืนเล็กๆ ห่างไกลจากแผ่นดินที่เคยเจริญรุ่งเรืองวัฒนาถาวรในอดีต..ผมคนหนึ่งที่ไม่อยากเป็นเหมือนชาวไทยใหญ่ 


ลานใช้จัดพิธีสวนสนามในวันชาติไทยใหญ่
กลางคืนใช้เป็นที่แสดงดนตรี และลิเก
















ปะรำพิธีสวนสนามและเวทีแสดงดนตรีตอนกลางคืน
















ก่อนจบขอนำประโยคๆหนึ่งไว้มาเตือนสติพวกเราทุกคน...ได้ตะหนัก
และช่วยกันขจัดสิ่งที่เลวร้าย ออกจากแผ่นดินไทยให้หมด...พวกเราชนชาติไทยไม่อยากเหลือแผ่นดินแค่หยิบมือ เฉกเช่น "ดอยไตแลง"

  "วันนี้ กูมองเห็นแต่ความเสื่อมสลาย 
ความโทรมทรุดอันเกิดจากการเห็นแก่อำนาจและประโยชน์ส่วนตัว 
มากกว่าความรักบ้านเมืองอย่างจริงใจ" 
ประโยคคลาสสิคจากภาพยนต์เรื่อง "ขุนรองปลัดชู" 

********************* 
ชาติชยา ศึกษิต 
9 ก.พ.2556

ไม่มีความคิดเห็น: