15 กันยายน 2557

สามเหลี่ยมมรกต (The Emerald Triangle)


น้ำสีเขียวเข้มดุจดั่งสีของมรกตในอ่างเก็บน้ำห้วยพลาญเสือตอนบน ผนวกกับป่าไม้ที่ยังคงความเขียวขจีอุดมสมบูรณ์ ในพื้นที่ กว่า 12 ตร.กม.ระหว่างรอยต่อของประเทศไทย ลาวและกัมพูชา จึงเป็นที่มาของนามว่า "สามเหลี่ยมมรกต" (The Emerald Triangle)


บนเนิน 500 ด้านหลังคือบริเวณสามเหลี่ยมมรกต

สามเหลี่ยมมรกต หรือช่องบก ตั้งอยู่ที่ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เป็นพื้นที่ที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง 3 ชาติ คือ ไทย สปป.ลาว และกัมพูชา พื้นที่ส่วนที่อยู่ในประเทศไทย คือ เขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี พื้นที่ในเขตประเทศลาว คือ แขวงจำปาสัก ส่วนพื้นที่ในประเทศกัมพูชา คือ จ.พระวิหาร

เมื่อวันอังคารที่ 2 ก.ย.2557 ผมและทีมงาน ได้ไปปฏิบัติงานการตรวจสอบและประเมินผลพื้นที่ปลอดภัยจากทุ่นระเบิด บริเวณ บ.แปดอุ้ม ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี หลังจากเสร็จภารกิจแล้ว ท่านนายก อบต.โดมประดิษฐ์ ได้ขอร้องให้ผมเดินทางไปกับท่าน เพื่อชมพื้นที่บริเวณ เนิน 500 และพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ท่านบอกว่ามีเรื่องที่จะขอร้องให้ผมช่วย ผมตอบว่า "ยินดีครับ..ถ้าผมช่วยได้"

ผมต้องนั่งรถขับเคลื่อน 4 ล้อของ อบต. โดมประดิษฐ์ ไปยังเนิน 500 เนื่องสภาพเส้นทางค่อนข้างยำ่แย่เอาการเลยทีเดียว และยิ่งเป็นฤดูุฝนด้วยแล้ว รถตู้ของเราหมดสิทธิ์




เส้นทางขึ้นสู่เนิน 500 สภาพหนักหนาสาหัสเอาการ
ต้องรถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น

วีรกรรมทหารกล้าที่กำลังถูกลืม
หลายคนคงเคยได้ยินการรบที่ช่องบก หรือสมรภูมิรบช่องบก ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคม 2528- ธันวาคม 2530 เป็นสงครามระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพเวียดนาม โดยกองทัพเวียดนามได้เข้ามายึดภูมิประเทศทางทหารที่สำคัญในดินแดนไทย เช่น เนิน 500 เนิน 408  เนิน 382 เนิน 496 และเนิน 495 เพื่อทำการผลักดันกองกำลังเขมรแดง การรบในครั้งนั้น ทหารไทยผู้กล้าต้องพลีชีพเพื่อปกป้กป้องแผ่นดินเอาไว้ถึง 109 คน บาดเจ็บอีก 664 นาย ส่วนทหารเวียดนาม และเขมรแดง ก็สูญเสียเป็นจำนวนมากเช่นกัน เล่ากันว่ารวมกันแล้ว ทั้งทหารไทย เวียดนาม และเขมรแดง เสียชีวิตที่สมรภูมิแห่งนี้ ไม่ตำกว่า 1,000 คน



เนิน 500 เป็นเนินสำคัญที่สุด ใครยึดได้จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้การรบชนะได้ เพราะสามารถตรวจการและชี้เป้าการยิงปืนใหญ่ได้ดีที่สุด บนเนิน 500 นี้ เต็มไปด้วยร่องรอยของการสู้รบสมัยนั้น เช่น บังเกอร์ หลุมบุคคล คูเลต ลูก ค. อาร์พีจี กระสุนปืนใหญ่ กระสุนปืนเล็ก ลูกระเบิดขว้าง เป็นต้น 





ภาพ UXO ที่มองเห็นเกลื่อนกลาดบนเนิน 500
ท่านรองนายก อบต.โดมประดิษฐ์ เล่าให้ฟังว่า ในทุกๆ ปี ช่วงหลังปีใหม่ ญาติของทหารผู้เสียชีวิตจะขึ้นมาทำบุญอุทิศส่วนกุศล รวมนักท่องเที่ยวด้วยแล้ว ปีละไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ท่ามกลางพื้นที่ที่ยังเต็มไปด้วยทุ่นระเบิด และสรรพวุธระเบิดที่ยังไม่ระเบิด (UXO)  ผมเห็นพื้นที่เนิน 500 แล้ว รู้สึกสังเวชใจ มีร่องรอยของความพยายามที่จะพัฒนาพื้นที่ให้เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์การสู้รบและพิพิธภัณฑ์สงคราม แต่ไม่สำเร็จ

เนิน 500 ยังคงเป็นแค่เนินแห่งความสูญเสียของวีรชนที่ถูกทอดทิ้งให้รกร้าง 
มีแค่เพียงญาติผู้สูญเสียเท่านั้นที่ยังคงจดจำและรำลึกถึง

บริเวณหน้าฐานอนุพงศ์


อนุสรณ์วีรกรรม จ.ส.อ.สมชาย แก้วประดิษฐ์ บนยอดเนิน 500
เขาน่าจะถูกสร้างขึ้นเพื่อให้เป็นอนุสรณ์ของความเสียสละของทหารกล้า และเพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้ ดังเช่น ห้วยโกร๋น หรือเขาค้อ เป็นต้น

อยากให้กู้ระเบิด
ที่เนิน 500 และพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมมรกตแห่งนี้ ในฐานข้อมูลของศูนย์ปฎิบัติการแห่งชาติ (TMAC) ระบุว่ายังคงเป็นพื้นที่อันตรายที่ได้รับยืนยันว่ามีทุ่นระเบิดอยู่ ยังไม่เคยมีการเข้าไปค้นหาเก็บกู้ทำลาย เพื่อทำให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยเลย ด้วยเหตุนี้ ท่านนายก อบต.โดมประดิษฐ์ จึงตั้งใจพาผมไปดู เพื่อขอร้องให้ TMAC ได้ช่วยเข้าไปดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อให้เป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัย ไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาพื้นที่ในอนาคต เพราะทุกวันนี้ ไม่มีใครกล้าเข้าไป

ศาลารวมใจ
ศาลารวมใจหรือศาลาตรีมุข เป็นศาลาที่ชาวไทย ลาว และกัมพูชา ได้ร่วมกันสร้างขึ้น ณ จุดกึ่งกลางสามเหลี่ยมมรกต เพื่อเป็นสัญลักษณ์ความสัมพันธ์ มิตรภาพ และเพื่อการเชื่อมโยงไปสู่ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวในอนาคต สภาพศาลาในปัจจุบันถูกทิ้งให้ชำรุดทรุดโทรม ขาดการดูแล นายก อบต.ฯ เล่าให้ฟังว่า ชาวไทย ลาว และกัมพูชา จะนัดกันมากินข้าวร่วมกันที่ศาลาแห่งนี้เดือนละ 1 ครั้ง แต่พอมี คสช. ก็เลิกไปเพราะเขาห้ามชาวไทย ส่วนชาวลาวและกัมพูชาก็มารอเก้อไป..


ภาพศาลารวมใจหรือศาลาตรีมุข
ที่ชำรุดทรุดโทรม ขาดการดูแล
ถ่ายภาพร่วมกันกับนายก อบต.โดมประดิษฐ์ รองนายก อบต.ฯ
และทหารกัมพูชาและลาว (ผู้ชายแต่งชุดพลเรือน) ที่ศาลารวมใจ

ความฝันร่วมกัน 3 ชาติ
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมกับองค์กรการท่องเที่ยวโลก (WTO) ได้ดำเนินการสำรวจสามเหลี่ยมมรกต ความฝันร่วม 3 ชาติ พบว่าการพัฒนาพื้นที่ต้องใช้งบลงทุนมหาศาล เพราะบริเวณนี้ยังเต็มไปด้วยทุ่นระเบิดนับล้านลูก การปักปันเขตแดนที่ยังไม่แล้วเสร็จ โครงการสนามกอล์ฟ 3 ประเทศ รีสอร์ตเชิงนิเวศ ศูนย์วัฒนธรรม 3 ชาติ รวมทั้งพิพิธภัณฑ์สงครามและการสู้รบ ล้วนต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลทั้งสิ้น และยังเสี่ยงต่อการต่อต้านของกลุ่มอนุรักษ์นิยมอีกด้วย

แต่ก่อนที่จะไปถึงฝัน สิ่งสำคัญตอนนี้ก็คือ "สามเหลี่ยมมรกตต้องปลอดจากทุ่นระเบิด" ดังนั้น TMAC จึงควรสั่งหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่เข้าดำเนินการเก็บกู้และทำลายทุ่นระเบิดในพื้นที่แห่งนี้เป็นลำดับแรก อย่าปล่อยให้ทุ่นระเบิดกลายเป็นอุปสรรคขัดขวางการพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ อีกต่อไป

บนเนิน 500 ด้านหลังคือสามเหลี่ยมมรกต

ในความเห็นส่วนตัวผมแล่้ว พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) แห่งนี้จะกลายเป็นพื้นที่อีกแห่งหนึ่งที่มีความสำคัญด้านเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยว และด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ถ้าทุกคน ทุกฝ่าย ทุกหน่วยงานของทั้ง 3 ประเทศ หันมาร่วมกันพัฒนาอย่างจริงจังโดยไม่มีวาระอื่นๆ ซ่อนเร้น หากเป็นเช่นนี้แล้ว "ความฝันของ นายก อบต.โดมประดิษฐ์ น่าจะเป็นจริง"

ไม่มีความคิดเห็น: